หน้าแรก » บทความ » รวม 6 สัญญาณอันตรายที่คุณควรใส่ใจและเลือกใช้บริการดูดไรฝุ่นได้แล้ว!

รวม 6 สัญญาณอันตรายที่คุณควรใส่ใจและเลือกใช้บริการดูดไรฝุ่นได้แล้ว!

เพื่อนๆ เคยสงสัยกันไหมคะว่า ทำไมช่วงนี้ถึงรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว มีอาการจาม คัดจมูก หรือผื่นคันขึ้นบ่อยๆ บางคนอาจคิดว่าเป็นอาการของโรคภูมิแพ้ แต่จริงๆ แล้วต้นตอของปัญหานี้อาจมาจากสิ่งเล็กๆ ใกล้ตัวอย่างไรฝุ่นที่ซ่อนอยู่ในที่นอนของเรานั่นเอง

ไรฝุ่นในที่นอนไม่ใช่แค่สิ่งรบกวนการนอนหลับเท่านั้น แต่มันยังแฝงอันตรายต่อสุขภาพของเราและคนที่เรารักอีกด้วย ดังนั้น เราควรตระหนักและใส่ใจกับปัญหานี้ตั้งแต่เนิ่นๆ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดผลกระทบในระยะยาว

ในบทความนี้ เราจะมาไขข้อสงสัยกันว่า มีสัญญาณอะไรบ้างที่บ่งบอกว่าไรฝุ่นกำลังรุกรานสุขภาพของเรา และเมื่อไหร่ที่เราควรตัดสินใจใช้บริการดูดไรฝุ่นจากผู้เชี่ยวชาญได้บ้าง

6 สัญญาณเตือนอันตรายจากไรฝุ่นที่คุณไม่ควรมองข้าม

1. อาการภูมิแพ้ที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง

ถ้าคุณมักมีอาการจาม คัดจมูก น้ำมูกไหล หรือผื่นคันตามผิวหนังอยู่บ่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ นี่อาจเป็นสัญญาณบ่งบอกว่าคุณกำลังได้รับผลกระทบจากไรฝุ่นในที่นอนแล้วล่ะ เพราะมูลและซากของไรฝุ่นมีโปรตีนที่กระตุ้นให้เกิดปฏิกิริยาภูมิแพ้ได้ง่าย ยิ่งสะสมนานวัน ก็ยิ่งเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพมากขึ้นเท่านั้น

2. คุณภาพการนอนหลับที่แย่ลง

การนอนหลับอย่างเพียงพอถือเป็นปัจจัยสำคัญของการมีสุขภาพดี แต่ถ้าคุณรู้สึกว่าหลับยาก กระสับกระส่าย หรือตื่นมาแล้วปวดเมื่อยตามร่างกายบ่อยครั้ง สาเหตุหนึ่งอาจมาจากไรฝุ่นที่ไปรบกวนคุณภาพการนอนของคุณก็เป็นได้ เพราะไรฝุ่นชอบขยายพันธุ์ในสภาพของพื้นที่ที่อับชื้น อย่างที่นอนที่ไม่ค่อยได้ตากแดด ทำให้คุณต้องสูดดมสารก่อภูมิแพ้จากมันตลอดคืน ส่งผลต่อการพักผ่อนโดยไม่รู้ตัว

3. ความอับชื้นและกลิ่นอับในห้องนอน

ลองสังเกตดูนะคะ ถ้าห้องนอนของคุณมีความชื้นสูง มีกลิ่นอับ หรือมีเชื้อราขึ้นตามซอกมุมบ่อยๆ นั่นหมายความว่าไรฝุ่นอาจกำลังฟักตัวอยู่ในที่นอนของคุณแล้ว เพราะสภาพแวดล้อมเหล่านี้เป็นแหล่งสะสมและเพาะพันธุ์ของไรฝุ่นได้ดีเป็นพิเศษ ถ้าคุณไม่รีบแก้ไข ปริมาณไรฝุ่นก็จะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนส่งผลต่อสุขภาพในที่สุด

4. อายุการใช้งานของที่นอนที่นานเกินไป

คุณใช้ที่นอนมานานแค่ไหนแล้ว? ที่นอนที่ใช้งานมานานเกิน 5 ปี มักจะกลายเป็นดินแดนในฝันของไรฝุ่นไปแล้ว เพราะมันสะสมความอับชื้น เศษผิวหนัง และคราบสกปรกต่างๆ มานับไม่ถ้วน กลายเป็นบ้านที่อุดมสมบูรณ์ของไรฝุ่นนั่นเอง ดังนั้น ถ้าที่นอนของคุณมีอายุการใช้งานมากกว่า 5 ปีแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องตรวจสอบและกำจัดไรฝุ่นให้หมดจด

5. ปริมาณฝุ่นละอองในห้องที่สูงผิดปกติ

ฝุ่นละอองมักจะพาไรฝุ่นมาเป็นเพื่อนด้วยเสมอ ดังนั้น ถ้าคุณสังเกตเห็นว่ามีฝุ่นละอองสะสมอยู่ในห้องนอนเป็นจำนวนมาก ทั้งบนชั้นวางของ ผ้าม่าน หรือพื้นห้อง ก็ควรระวังให้ดี เพราะนั่นอาจเป็นสัญญาณว่าไรฝุ่นกำลังตั้งถิ่นฐานอยู่ในบ้านของคุณแล้ว และพร้อมจะย้ายเข้าไปอาศัยในที่นอนของคุณได้ทุกเมื่อ

6. สมาชิกในบ้านมีอาการป่วยบ่อยขึ้น

ข้อสุดท้ายนี้สำคัญมากเลยเพราะไรฝุ่นไม่ได้ส่งผลแค่ตัวคุณคนเดียว แต่มันยังสามารถแพร่กระจายไปสู่คนในครอบครัวของคุณได้ด้วย ยิ่งถ้าบ้านคุณมีเด็กเล็กหรือผู้สูงอายุ ก็ยิ่งต้องใส่ใจเป็นพิเศษ เพราะภูมิต้านทานของพวกเขาค่อนข้างต่ำ เสี่ยงต่อการเจ็บป่วยจากไรฝุ่นได้ง่ายกว่าคนทั่วไป ดังนั้น ถ้าคุณสังเกตว่าคนในบ้านมีอาการไอ จาม เป็นหวัด หรือมีผื่นคันบ่อยผิดปกติ ก็อย่ารอช้าที่จะตรวจสอบที่นอนและกำจัดไรฝุ่นโดยด่วน

ทางออกที่ดีที่สุด คือการใช้บริการดูดไรฝุ่นจากผู้เชี่ยวชาญ

เมื่อคุณพบสัญญาณอันตรายจากไรฝุ่นตามที่กล่าวมา ก็ไม่ควรนิ่งนอนใจอีกต่อไป เพราะยิ่งปล่อยไว้นานเท่าไหร่ ผลกระทบต่อสุขภาพก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเท่านั้น

แต่ปัญหาคือ การกำจัดไรฝุ่นด้วยตัวเองนั้นทำได้ยาก เพราะมันมีขนาดเล็กมาก มองด้วยตาเปล่าแทบไม่เห็น แถมยังหลบซ่อนอยู่ในที่ลึกของที่นอนอีกด้วย การซักผ้าปูที่นอนหรือตากที่นอนเฉยๆ จึงไม่เพียงพอที่จะขจัดไรฝุ่นให้หมดไปได้

ดังนั้น ทางออกที่ดีที่สุด คือการใช้บริการดูดไรฝุ่นจากผู้เชี่ยวชาญอย่าง COIT ที่มีประสบการณ์และเทคโนโลยีเฉพาะทางในการกำจัดไรฝุ่น พวกเขาจะเข้ามาดูดไรฝุ่นให้หมดจดถึงที่บ้าน พร้อมใช้น้ำยาฆ่าเชื้อที่ปลอดภัยเพื่อป้องกันการกลับมาของไรฝุ่นอีกด้วย

สุขภาพที่ดีเริ่มต้นได้จากการนอนหลับอย่างมีคุณภาพบนที่นอนที่สะอาดปลอดไรฝุ่น ดังนั้นอย่าปล่อยให้สัญญาณอันตรายจากไรฝุ่นที่เราได้กล่าวไปเป็นเรื่องที่คุณต้องละเลย เพราะมันส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพของคุณและคนที่คุณรัก

Scroll to Top