ในหลายบ้าน ผ้าม่านและมู่ลี่ถูกทำความสะอาดในช่วงเวลาต่างกัน เนื่องจากมองว่าเป็นวัสดุคนละประเภท แต่ในเชิงการไหลเวียนอากาศภายในบ้าน วัสดุทั้งสองนี้ถูกใช้งานร่วมกันอย่างใกล้ชิดตามบริเวณหน้าต่าง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รับฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ และความชื้นจากภายนอก
ลมจากภายนอกจะพัดผ่านมู่ลี่ก่อนกระจายสู่ผ้าม่านด้านใน ทำให้ฝุ่นอนุภาคเล็ก ฝุ่น PM เกสรดอกไม้ หรือควันจากภายนอกเกาะสะสมบนมู่ลี่ในปริมาณมากเทียบเท่ากับผ้าม่าน จนแม้จะซักผ้าม่านสะอาดเพียงใด หากมู่ลี่ที่อยู่ด้านหน้ายังเต็มไปด้วยฝุ่น ไม่ถูกทำความสะอาดอย่างถูกต้องและเหมาะสม จะก่อให้เกิดการสะสมซ้ำอย่างรวดเร็ว ซึ่งกระทบต่อคุณภาพอากาศภายในบ้านหรือพื้นที่นั้น ๆ
การดูแลผ้าม่านเพียงอย่างเดียวจึงไม่สามารถจัดการฝุ่นจากต้นทางได้ครบถ้วน ทำให้การทำความสะอาดสองส่วนควรเป็นงานที่ทำพร้อมกัน เพื่อให้บ้านปลอดฝุ่นอย่างแท้จริงและไม่กระทบต่อคุณภาพอากาศ
จุดแข็งการทำความสะอาดผ้าม่านและมูลี่ในสถานที่ต่าง ๆ จากบริการซักผ้าม่าน COIT
จุดแข็งที่ทำให้บรอการซักผ้าม่านของ COIT แตกต่าง คือ การมองผ้าม่านและมู่ลี่เป็นระบบเดียวกัน ไม่ใช่งานแยกส่วน ทำให้ COIT ใช้วิธีประเมินลักษณะของผ้าม่าน วัสดุของมู่ลี่ และระดับฝุ่นสะสมก่อนเลือกขั้นตอนทำความสะอาดที่เหมาะสม
สิ่งที่โดดเด่นของ COIT ได้แก่
- กระบวนการซักผ้าม่านประสิทธิภาพสูง ช่วยกำจัดฝุ่น คราบเขม่า และสารก่อภูมิแพ้ โดยไม่ทำลายเส้นใยผ้า
- การป้องกันการหดตัวของผ้าม่าน ด้วยเทคนิคเฉพาะที่ COIT พัฒนามาอย่างยาวนาน
- ช่างเทคนิคที่ผ่านการรับรองจาก IICRC พร้อมประสบการณ์ด้านงานผ้าม่านและงานซักผ้าม่านระดับพรีเมียม
- การให้คำแนะนำรอบการซักผ้าม่านและการดูแลมู่ลี่แบบเหมาะสมกับสภาพบ้านของแต่ละลูกค้า
ประโยชน์ของการดูแลระบบอากาศบริเวณหน้าต่างอย่างครอบคลุมของบริการซักผ้าม่าน COIT
การดูแลทั้งสองส่วนพร้อมกันช่วยยืดอายุวัสดุ ลดความจำเป็นในการเปลี่ยนบ่อย และช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ด้วยประโยชน์ดังนี้
- ฝุ่นไม่ฟุ้งซ้ำจากมู่ลี่กลับไปที่ผ้าม่าน
เมื่อมู่ลี่ยังมีฝุ่นสะสมอยู่ ไม่ว่าจะเป็นฝุ่นอนุภาคเล็ก ฝุ่น PM หรือเกสรดอกไม้ ล้วนเป็นฝุ่นที่เกิดการฟุ้งกระจายได้ง่าย แม้เปิดหน้าต่างเพียงเล็กน้อย แรงลมก็เพียงพอให้ฝุ่นบนมู่ลี่กระจายเกาะบนผ้าม่านด้านใน ซึ่งเป็นพื้นที่ดูดซับได้ดีและเก็บฝุ่นได้ลึกกว่า
เมื่อทำความสะอาดทั้งมู่ลี่และผ้าม่านพร้อมกัน จะตัดแหล่งกำเนิดฝุ่นไม่ให้ฟุ้งกลับมาสู่ผ้าม่านที่เพิ่งซักเสร็จ
- ลดโอกาสเกิดกลิ่นอับในฤดูฝน
ช่วงฤดูฝนส่งผลให้ความชื้นในอากาศสูงขึ้น ทำให้ผ้าม่าน ซึ่งเป็นวัสดุที่ดูดซึมกลิ่นและความชื้นได้ง่าย เกิดกลิ่นอับ เช่นเดียวกันกับมู่ลี่ที่ดูดความชื้นตามบรรยากาศ ทำให้ฝุ่นและคราบที่เกาะอยู่เริ่มเกิดกลิ่นหมักหมมมากขึ้น
การได้รับบริการซักผ้าม่านที่เหมาะสมจากผู้เชี่ยวชาญด้านความสะอาดอย่าง COIT จะช่วยกำจัดคราบ กลิ่น และสิ่งสกปรกสะสมอย่างล้ำลึก
- ลดโอกาสเกิดการสะสมของเชื้อราในวัสดุที่ดูดความชื้น
ผ้าม่านเป็นวัสดุที่ดูดความชื้นได้ง่ายมาก โดยเฉพาะผ้าแบบลินิน คอตตอน หรือผ้าโปร่ง ส่วนมู่ลี่สามารถกักเก็บละอองความชื้นได้ โดยเฉพาะในบ้านที่เจอฝนสาดหรืออากาศชื้นต่อเนื่อง หากมีความชื้นผสมกับฝุ่นหรือคราบมันบนมู่ลี่เพียงเล็กน้อย ก็เพียงพอให้เกิดการสะสมของสปอร์เชื้อราได้
ด้วยเทคนิคและน้ำยาทำความสะอาดเฉพาะจาก COIT จึงช่วยลดโอกาสการเกิดเชื้อราได้ดีกว่าการทำความสะอาดแบบทั่วไป อีกทั้งมีความเหมาะสมต่อเส้นใยผ้าม่านและมู่ลี่
- ช่วยให้อากาศบริสุทธิ์ขึ้นทันทีหลังทำความสะอาด
เมื่อทำความสะอาดทั้งสองส่วนพร้อมกัน คุณภาพอากาศจะดีขึ้นทันที เพราะ
- ลดปริมาณฝุ่นที่ฟุ้งกระจายอยู่ในบริเวณหน้าต่าง
- ไม่มีคราบหรือสิ่งสะสมที่ทำให้เกิดกลิ่นอับ
- ลดสารก่อภูมิแพ้ เช่น เกสรและฝุ่นขนาดเล็ก
- ลดความเสี่ยงเชื้อราที่ปล่อยสปอร์เข้าสู่อากาศ
ขจัดสิ่งสกปรกอย่างมืออาชีพกับบริการซักผ้าม่าน COIT
ผ้าม่านและมู่ลี่อาจดูเหมือนอุปกรณ์คนละประเภท แต่เมื่อพิจารณาการทำงานและทิศทางการไหลเวียนอากาศภายในบ้าน ทั้งสองส่วนเป็นระบบเดียวกันที่มีผลต่อคุณภาพอากาศ ความสะอาด และสุขภาพของผู้อยู่อาศัยโดยตรง
การเลือกใช้บริการซักผ้าม่านควบคู่กับการทำความสะอาดมู่ลี่ จึงเป็นแนวทางที่ช่วยให้ผลลัพธ์ด้านความสะอาดมีความครบถ้วน ลดการฟุ้งซ้ำของฝุ่น และทำให้พื้นที่อยู่อาศัยมีบรรยากาศที่เหมาะสมต่อการใช้ชีวิตมากขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
การดูแลสองส่วนนี้ควรทำภายใต้วิธีที่เหมาะกับชนิดผ้าและวัสดุ ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผู้ให้บริการซักผ้าม่านมืออาชีพอย่าง COIT ให้ความสำคัญกับความสะอาดของชุดผ้าม่าน รวมถึงมู่ลี่ที่สะสมฝุ่น
ก่อนเลือกวิธีการทำความสะอาดที่เหมาะสมจาก COIT จะช่วยปกป้องเส้นใยผ้าม่าน ลดการหดตัว และกำจัดคราบหรือสารก่อภูมิแพ้ที่เกาะสะสมอยู่ลึกในผ้า ซึ่งทำให้ผลลัพธ์ของบริการซักผ้าม่านอยู่ได้นานขึ้น เมื่อทำงานร่วมกับการดูแลมู่ลี่อย่างถูกต้อง ทำให้สามารถลดค่าใช้จ่ายระยะยาวจากการซ่อมแซมหรือเปลี่ยนใหม่โดยไม่จำเป็น สร้างบ้านที่มีคุณภาพอากาศดีขึ้น น่าอยู่ขึ้น และส่งผลดีต่อสุขภาพของทุกคนในบ้าน



