หน้าแรก » บทความ » วิธีตรวจสอบและแก้ไขปัญหากลิ่นอับบนพรม: รู้ไว้ก่อนสายเกินแก้

ร้าน ซัก พรม

วิธีตรวจสอบและแก้ไขปัญหากลิ่นอับบนพรม: รู้ไว้ก่อนสายเกินแก้

คุณเคยเปิดประตูบ้านหรือห้องทำงานแล้วได้กลิ่นอับๆ จากพรมรึเปล่า? ถ้าเป็นเช่นนั้น มันอาจเป็นสัญญาณเตือนว่าพรมของคุณต้องมีการทำความสะอาดแล้ว เพราะอย่าลืมว่กลิ่นอับบนพรมไม่เพียงแต่รบกวนจมูกเท่านั้น แต่ยังเป็นที่อยู่อาศัยของสิ่งมีชีวิตขนาดเล็ก เช่น ไรฝุ่น แบคทีเรีย และเชื้อรา ซึ่งอาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีภูมิแพ้หรือทางเดินหายใจไม่สะดวกด้วย 

เข้าใจสาเหตุของกลิ่นอับบนพรม

สาเหตุหลักของ กลิ่นอับบนพรมนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็น

  • ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก

ฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่างๆ เช่น เศษอาหาร ขนสัตว์เลี้ยง และเส้นผม สามารถสะสมอยู่ในเนื้อพรม ก่อให้เกิดกลิ่นอับที่รบกวนได้ในที่สุด

  • ความชื้น

พรมที่ได้รับความชื้นมากเกินไป เช่น จากการรั่วซึมของน้ำ หรือความชื้นสูงในบ้าน สามารถเป็นแหล่งเพาะเชื้อราและแบคทีเรียที่ก่อให้เกิดกลิ่นอับได้ 

  • คราบเปื้อนและรอยเปียก

คราบเปื้อนจากของเหลวต่างๆ เช่น ไวน์แดง น้ำผลไม้ หรือปัสสาวะจากสัตว์เลี้ยง หากไม่ได้รับการทำความสะอาดอย่างถูกวิธี อาจทำให้เกิดกลิ่นอับและเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคได้

เข้าใจที่มาของความสกปรกไปแล้ว การตรวจสอบกลิ่นอับบนพรมเป็นขั้นตอนสำคัญก่อนลงมือทำความสะอาด โดยร้านซักพรมหลายๆ ที่มักแนะนำว่าควรสามารถทำได้ดังนี้:

  1. ใช้จมูกสูดดมกลิ่นพรมในพื้นที่ต่างๆ ของบ้านหรือห้องทำงาน หากพบกลิ่นอับ ให้จดบันทึกตำแหน่งนั้นไว้
  2. ตรวจสอบรอยคราบและคราบเปียกบนพรม ซึ่งเป็นแหล่งกำเนิดกลิ่นอับที่สำคัญ
  3. ใช้มือลูบไล้พรมเบาๆ หากมีฝุ่นละอองหรือสิ่งสกปรกฟุ้งกระจายออกมา แสดงว่าพรมนั้นต้องการทำความสะอาดแล้ว

วิธีแก้ไขปัญหากลิ่นอับบนพรม จดไว้ได้ใช่แน่นอน

หลังจากตรวจสอบและระบุตำแหน่งที่มีปัญหากลิ่นอับบนพรมแล้ว ขั้นตอนต่อไปคือการแก้ไขปัญหา มีหลายวิธีดังนี้:

  • ทำความสะอาดพรมด้วยตนเอง

สำหรับกลิ่นอับเล็กน้อย คุณอาจลองทำความสะอาดพรมด้วยตนเองก่อนอาจไม่ต้องถึงขั้นเข้าร้านซักพรม โดยใช้น้ำยาทำความสะอาดพรมและเครื่องดูดฝุ่น อย่างไรก็ตาม วิธีนี้อาจไม่ได้ผลสำหรับกลิ่นอับที่รุนแรง

  • ใช้บริการทำความสะอาดพรมมืออาชีพ

หากปัญหากลิ่นอับบนพรมยังคงอยู่หรือรุนแรงมาก การใช้บริการทำความสะอาดพรมจากผู้เชี่ยวชาญ เช่น COIT เป็นทางเลือกที่ดีที่สุด พวกเขามีเครื่องมือและผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถขจัดกลิ่นอับและสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด นอกจากนี้ ยังช่วยยืดอายุการใช้งานของพรมได้อีกด้วย

  • เปลี่ยนพรมใหม่

ในกรณีที่พรมเก่ามากและทำความสะอาดแล้วแต่กลิ่นอับก็ยังไม่หายไป การเปลี่ยนพรมใหม่อาจเป็นวิธีเดียวที่จะแก้ปัญหาได้อย่างถาวร แต่ต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูง

อย่าลืมว่า การเปลี่ยนพรมใหม่อาจเป็นเรื่องที่เสียค่าใช้จ่ายเกินจำเป็น และการทำความสะอาดเองอาจเป็นเรื่องที่เสียเวลาและพลังงาน ทั้งยังสามารถก่อความวุ่นวายอย่างมาก เพราะแบบนี้การใช้บริการทำความสะอาดพรมจากผู้เชี่ยวชาญหรือร้านซักพรมมีข้อดีหลายประการ ได้แก่:

  1. ประหยัดเวลาและแรงงาน แทนที่จะต้องทำความสะอาดพรมด้วยตนเอง
  2. มีประสิทธิภาพสูงในการขจัดกลิ่นอับและสิ่งสกปรก เนื่องจากใช้เครื่องมือและผลิตภัณฑ์ระดับมืออาชีพ
  3. ช่วยยืดอายุการใช้งานของพรม เพราะพรมได้รับการดูแลอย่างถูกวิธี
  4. ปลอดภัยต่อสุขภาพ เนื่องจากใช้ผลิตภัณฑ์ที่ปลอดสารพิษและไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อมนุษย์หรือสัตว์เลี้ยง
  5. มีบริการรับประกันหลังการทำความสะอาด หากพบปัญหากลิ่นอับกลับมาอีกภายในระยะเวลา

กลิ่นอับบนพรมไม่เพียงแต่รบกวนจมูกเท่านั้น แต่ยังเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้ การตรวจสอบและแก้ไขปัญหากลิ่นอับบนพรมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม หากคุณพบกลิ่นอับบนพรมที่บ้านหรือที่ทำงาน อย่ารอช้า ลองตรวจสอบตามวิธีที่เราแนะนำ แล้วเลือกใช้บริการทำความสะอาดพรมจาก COIT ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ เพื่อแก้ปัญหาอย่างได้ผลและยั่งยืน คุณจะได้สัมผัสกับพรมที่สะอาด หอมสดชื่น และปลอดภัยต่อสุขภาพอีกครั้ง

Scroll to Top